พระมหาพงพีเถาวัลย์ กับ พระมหาสมปอง แจงดราม่า ทำศาสนาเสื่อมไหม ในโหนกระแส หลังไลฟ์ธรรมะสุดฮา ขำสมญานามใหม่ ตอบปม อนาคตในวงการพระสงฆ์ ขึ้นกับว่าผูกกับอะไร
จากกรณี พระมหาพงพีเถาวัลย์ วรวณฺโณ พระแห่งวัดสร้อยทอง กับพระมหาสมปอง มีการไลฟ์ธรรมะแบบแทรกสอดมุกตลกขบขัน จนถึงสร้างความเฮฮาและเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นและชาวเน็ต ล่าสุด (4 กันยายน 2564) รายการโหนกระแส ทางช่อง 3 โดยผู้ดำเนินรายการ ชายหนุ่ม แขนรชัย ก็ได้เชื้อเชิญพระทั้งยัง 2 รูปมาเสวนากัน
พส. ทำไมจำต้องใช้คำนี้
พระมหาสมปอง เผยถึงปัจจัยที่ใช้คำว่า พส. ชี้ว่าจริงๆแล้วเป็นการนำกลุ่มคำวลีฮิตในวัยรุ่นมาเปลี่ยนแปลง เพราะ พส. ก็มีความหมายว่าภิกษุได้ ต่อจากนี้ไปเวลาคนคิดถึงคำดังที่กล่าวมาแล้ว ก็จะคิดถึงภิกษุ
ขำรับชื่อใหม่ PP และ PS
ขณะเดียวกัน ชายหนุ่ม แขนรชัย เผยว่าในเวลานี้มีชาวเน็ตเล็กน้อยเรียก พระมหาพงพีเถาวัลย์ กับพระมหาสมปอง ด้วยชื่อย่อเป็น PP และ PS โดย PP (พระมหาพงพีเถาวัลย์) นั้นก็อย่างกับชื่อแบรนด์ของนาฬิกาหรู ราวกับชื่อย่อของ เป๊ก ผลิตโชค และนักฟุตบอลดัง ในช่วงเวลาที่ PS (พระมหาสมปอง) ก็อินเทรนด์ไม่แพ้กัน เป็นอย่างกับเกมเพลย์สเตชั่น ซึ่งได้สร้างความเฮฮาให้พระอารมณ์ดีทั้งยัง 2 รูป ที่ยังไม่เคยรู้ว่าท่านถูกวัยรุ่นเรียกกันแบบนี้
แสดงธรรมะซ่อนเร้นอารมณ์ขัน มีเสียงต่อว่าหรือเปล่า
ในการแสดงธรรมแบบมีการแทรกสอดมุกตลกขบขันเข้าไปแบบนี้ ย่อมอาจมีกลุ่มคนที่ไม่เข้าใจ ซึ่งพระมหาสมปอง สารภาพว่าก็มีพระเถระท่านเตือนบ้าง มี พศาสตราจารย์ มี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โทร. มา บ้าง จะชวนพวกเราไปอธิบาย ซึ่งท่านก็รู้สึกว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสดีที่พวกเราจะได้อธิบายและเสนอแนะว่า การเผยแผ่แบบนี้ผู้ฟัง และก็หลังจากนั้นจึงค่อยถือสิ่งที่เป็นประโยชน์เข้าไป ราวกับอย่างที่ท่านเคยพูดไว้ว่า “แปลงวิกฤตเป็นจังหวะ แปลงวายวอดเป็นปรับปรุง แปลงปัญหาให้เป็นบทเรียน”
ปัจจุบันนี้ทางเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ยังไม่มีการเรียกพระทั้งยัง 2 รูปเข้าไปเสวนา แม้กระนั้นเมื่อมีผู้ใหญ่บอกอะไรมาท่านก็มาบอกอีกที ว่าเบาได้เบา
ชายหนุ่ม แขนรชัย งงงวย ไลฟ์กระทั่งถึงดึกดื่น ไม่จำวัดหรอ
ดังนี้ ชายหนุ่ม แขนรชัย ยังได้ถามไถ่ถึงในกรณีที่ได้โทร. กลับไปหาพระมหาสมปองในวันที่มีการไลฟ์ ซึ่งเวลานี้ชายหนุ่มได้ถามคำถามว่ามันดึกดื่นแล้ว ทำไมพวกท่านถึงไม่จำวัด แล้วเคยตื่นเช้ามาสวดมนต์ ทำวัตรหรือไม่
ในจุดนี้พระมหาพงพีเถาวัลย์ ตอบว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจำวัด 4 ชั่วโมง แม้กระนั้นภาพคนประเทศไทยเป็นพระจำต้องนอนเร็ว จริงๆไม่นอนเร็วก็ตื่นเช้าได้
พระมหาสมปอง ชี้ว่า จริงๆจากนี้ก็จะมีการแทรกสอดรายละเอียดธรรมะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประเดี๋ยวมาดูกันว่าเพียงพอเวลาธรรมะจำนวนมากแล้วคนจะมองกี่ร้อย
อนาคตในวงการพระสงฆ์ ขึ้นกับว่าเอาคำนี้ไปผูกกับอะไร
ดังนี้ สำหรับในกรณีที่ พระเทวดาเชาวน์วาที หรือ เจ้าคุณพิพิธ วัดสุทัศนเทพวรารามฯ ออกมาเตือนว่ามีพระผู้ใหญ่ไม่ยินดี กล่าวว่ากลัวไม่มีอนาคตในวงการพระสงฆ์ของภิกษุทั้งยัง 2 รูป ชายหนุ่ม แขนรชัย ถามคำถามว่าในวงการพระสงฆ์นั้นจะต้องมีวงการด้วยหรอ ตนไม่เข้าใจ มีจุดพีคด้วยหรือ
“ผมถามนิดเดียวก่อน ในวงการพระสงฆ์เนี่ยเป็นจะต้องมีอนาคตด้วยหรอ มันราวกับวงการบันเทิงไหมฮะ ผมไม่เข้าใจคำนี้ เป็นคำว่าอนาคตในวงการบันเทิงคุณดับวูบ นั่นเป็นถึงคุณจะมิได้เป็นผู้แสดงนำชายนางเอก แล้วอนาคตในวงการพระสงฆ์นี่เป็นยังไง” ชายหนุ่ม แขนรชัย ถาม
พระมหาพงพีเถาวัลย์ บอกว่า จำต้องถามก่อนว่า คำว่า อนาคตเอาไปผูกไว้กับอะไร เป็นถ้าในกรอบของคำว่าอนาคตไปผูกว่า ท่านควรต้องได้โต ได้มีสมณศักดิ์ มีตำแหน่งหน้าที่ เป็นพวกเรามิได้มองหัวข้อนี้มานานแล้ว อาตมาว่าท่านพระคุณครูสมปองก็มิได้มอง ท่านเน้นว่าได้ปฏิบัติงานกับราษฎร กับนิสิต กับราษฎรคนรุ่นหลังดีมากยิ่งกว่า การเทศนาก็คืออนาคตใช่ไหมพระคุณครู
ในช่วงเวลาที่บอกว่า บางทีอาจจะเป็นเพราะคุณครูตอนสอนที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงแขนที่ราชวิทยาลัย คุณครูโยมคนหนึ่งกล่าวว่า “สมณศักดิ์เป็นสิ่งที่อาณาจักรเอามาครอบงำศาสนจักรเอาไว้” โดยสมณศักดิ์ก็คือยศ อาณาจักรก็คือโยม ศาสนจักรก็คือพระ
แม้กระนั้นถ้าเพื่อนพ้องได้ท่านก็ยินดี แม้กระนั้นพวกเราต้องการปฏิบัติงานด้านเผยแผ่ เป็นขวัญใจเด็กๆขวัญใจผู้ใหญ่ ขวัญใจคนวัยแก่คนแก่ ในตอนนี้เป็นขวัญใจวัยรุ่น ใดๆ พวกเราก็อยากให้คนแฮปปี้
ถ้าหวังอนาคตในทางคณะสงฆ์ ก็แค่จำต้องอยู่ในกรอบ เป็นที่โปรด
ชายหนุ่ม แขนรชัย ถามต่อว่าต่อขาน สมมติว่าพระไม่ออกทีวี พระอยู่แม้กระนั้นในวัดแล้ว อนาคตถัดไปท่านจะได้เป็นอะไร ในวงการพระสงฆ์ มีความกว้างใหญ่เป็นพระครู เป็นเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอะไรหรือไม่
พระมหาพงพีเถาวัลย์ ตอบว่า โดยประมาณนั้นๆแม้กระนั้นในตอนนี้พึงใจกับตำแหน่งที่ได้แล้ว รักษาการณ์พระลูกวัดวัดหลวง
เมื่อชายหนุ่ม แขนรชัย ถามต่อว่าต่อขาน พวกเราจำต้องทำดีแบบไหน จำต้องทำดีแค่ไหน ถึงเป็นเจ้าคณะตำบล จำต้องไม่กินปลาหรือ หรือว่าอะไร พระมหาพงพีเถาวัลย์ ก็ให้คำตอบว่า “ถ้าพวกเราหวังว่าจะมีอนาคตในทางคณะสงฆ์ ก็แค่จำต้องทำอะไรบ้างที่อยู่ในกรอบ ทำอะไรให้เป็นที่โปรดของพระผู้ใหญ่ จำต้องอะไรแบบนี้ ก็จะได้เลื่อนตำแหน่ง”
ในช่วงเวลาที่พระมหาสมปอง ระบุว่า ก็จะมีฝ่ายบริหาร ฝ่ายปกครอง ฝ่ายการเรียนรู้ พระที่จะรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงานเป็นบางคราวท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านปรับปรุงดีท่านขึ้นเป็นเจ้าคณะตำบล ปรับปรุงดีอีกก็เป็นเจ้าคณะอำเภอ ถ้ามีบารแผ่ มีเมตตา เก่งมาก ก็เป็นเจ้าคณะจังหวัด ถ้าทางด้านยศก็เป็นเจ้าคุณชั้นนั้นชั้นนี้ไปเรื่อยๆด้วยผลงานการเรียนรู้ มีการเจริญรุ่งเรือง มีความเรียบร้อย