กระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร พบป่วยไข้วัววิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในวันเดียว เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
สำนักข่าวซินหัว แถลงการณ์ว่า หน่วยงานหลักประกันสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) เปิดเผยในวานนี้ (5 ธันวาคม) พบคนป่วยโรคติดเชื้อวัววิด-19 ประเภทกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน เพิ่ม 86 ราย นำมาซึ่งการทำให้ยอดผู้ติดโรคไวรัส สายพันธุ์ดังที่กล่าวมาแล้ว สะสมรวม 246 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับ 160 รายในวันเสาร์ (4 ธันวาคม)
สหราชอาณาจักรยังตรวจพบคนป่วยโรควัววิด-19 เพิ่ม 43,992 ราย ทำให้มีคนป่วยสะสม 10,464,389 ราย และก็คนป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 54 ราย ทำให้มีคนป่วยเสียชีวิตรวม 145,605 ราย โดยนับเฉพาะคนเสียชีวิตภายใน 28 วัน หลังผลตรวจโรคเป็นบวกครั้งแรก
ด้านซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสหราชอาณาจักร ประกาศให้ผู้เดินทางขาเข้าระหว่างประเทศทุกคน แล้วก็เด็กอายุเกิน 12 ปี จำเป็นต้องตรวจโรควัววิด-19 ก่อนเริ่มเดินทางไม่เกิน 48 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 04.00 น. ของวันอังคาร (7 ธันวาคม) ตรงเวลามาตรฐานสากล
นอกจากนี้ ไนจีเรียจะถูกเพิ่มเข้ารายชื่อประเทศกลุ่มสีแดง ตั้งแต่ 04.00 น. ของวันจันทร์ (6 ธันวาคม) ตรงเวลามาตรฐานสากล ต่อจากหลายประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งถูกเพิ่มเข้ารายชื่อดังที่กล่าวมาแล้วหลังตรวจพบเชื้อสายชนิดโอไมครอน ครั้งแรกเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน
“ผมรู้สึกว่า สายเกินความจำเป็นแล้วที่จะเปลี่ยนแนวทางการระบาดของโรควัววิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน” ศาสตราจารย์ มาร์ค วูลเฮาส์ สมาชิกกลุ่มการระบาดใหญ่เชิงวิทยาศาสตร์ด้านการผลิตแบบจำลอง (Spi-M) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซี เมื่อถูกถามถึงข้อกำหนดการเดินทางใหม่นี้
ปัจจุบันนี้ ประชากรอายุ 12 ปีขึ้นไปในสหราชอาณาจักร ได้รับวัคซีนคุ้มครองป้องกันโรควัววิด-19 โดสแรกมากยิ่งกว่า 88% ได้รับวัคซีนครบโดสเกือบ 81% และก็ได้รับวัคซีนโดสกระตุ้นมากยิ่งกว่า 35% แล้ว