เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน นายปลอดประสพ สุรัสวดี สมัยก่อนรองนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นหลังวันนี้มีความอลหม่านน้ำล้นท่วมหลายจุดใน กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี รวมทั้งอีกหลายจังหวัด โดยระบุว่า
วันนี้อุทกภัยระส่ำระสายไปหมด พวกคุณอยู่ตรงไหนกัน (จ๊ะ) คุณครู ดร.โกร่ง (ศาสตราจารย์ดร.วีรพงษ์ รามางกูร) เพิ่งถึงแก่ความตาย นับเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญในกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์รวมทั้งนักวางแผนระดับมหภาค รวมทั้งต่อกลุ่มบุคคลที่เชื่อสำหรับเพื่อการทำประโยชน์เพื่อสาธารณะมากกว่าจะพิจารณาถึงความแตกแยกขัดแย้งที่สังคมไทยมักทำขึ้นเอง (ชอบฝันร้าย)
ผมรู้จักกับคุณครูโกร่งเมื่อวัยเพียงแต่ 35 ในฐานะรองอธิบดี (กรมประมง) ที่เด็กที่สุดในประเทศ คุณครูอายุ 37 เป็นที่ปรึกษาท่านนายกรัฐมนตรีเปรม ติณสูลานนท์ และก็เป็นคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ที่หนุ่มที่สุดเช่นกัน ท่านได้เข้ามาไตร่ตรองรวมทั้งชี้นำโครงงานประมงหมู่บ้าน แผนพัฒนาชนบทยากไร้ที่ผมดูแล ซึ่งโครงงานนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม กระทั่งมีการปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอมาอีกเกือบจะ 15 ปี
กระทั่งเมื่อผมอายุ 65 ปี เป็นรองนายกรัฐมนตรีจำต้องรับผิดชอบเรื่องน้ำของชาติ ท่านคุณครูโกร่งมาช่วยท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ โดยเป็นประธานคณะกรรมที่มีความสำคัญในการรบเพื่อการฟื้นฟูรวมทั้งสร้างอนาคตประเทศ ท่านบอกผมว่า อุทกภัยคราวนี้เรา suffer มากนะ จะแก้ไขแบบธรรมดาค่อยเป็นค่อยไปคงมิได้ ได้ปรึกษาหารือคงจำต้องกู้เงิน แม้กระนั้นต้องการหาจากภายในประเทศ สัก 350,000 ล้าน พอไหม แล้วหลังจากนั้นจึงถามผมว่า คิดทำยังไงบ้าง คงจะต้องมีเอกสารวิธีการออกมาก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยคิดให้ลึกลงไปในแนวทางการวางแบบเบื้องต้นก็ตามใจ ผมก็บอกท่านไปว่า ได้ปรึกษาหารือท่านนายกรัฐมนตรีแล้ว คิดเหมือนกันเลย ทั้งหมดทั้งปวงนี้ผมจะทำโดยใช้คณะผู้เชี่ยวชาญของไทยทั้งหมดทั้งปวง จะไม่จ้างผู้ใดกันแน่เลยด้วย จำได้ว่าท่านก็หัวเราะดังๆตาม style ของท่าน ในที่สุดพวกเราก็ทำได้จริงๆเราทำแล้วเสร็จประหยัดเงินไป 2,000 ล้านบาท แม้กระนั้นยังไม่วายมีคนไปฟ้อง สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรวมทั้งศาลปกครองจนได้ ซึ่งในที่สุดเราก็เป็นข้างถูกต้อง แม้กระนั้นก็มิได้ทำเพราะโดนยึดอำนาจ (ดื้อๆ) เสียก่อน
ท่านนายกรัฐมนตรีขอรับ ท่านทราบหรือไม่ว่า วันนี้อุทกภัยใหญ่ระส่ำระสายไปหมด ตั้งแต่จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี กรุงเทพฯ รวมทั้งจังหวัดธนบุรี อุทกภัยสูงขึ้นมากยิ่งกว่าทุกวี่วันก่อนหน้านี้ รวมทั้งอีกสองวันก็จะยิ่งท่วมสูงไปกว่านี้อีก 20-30 ซม. (ทราบไหมครับ) บ้านผมหน้าบ้านท่วมหมดแล้ว (ดูภาพ) พรุ่งนี้ยังไม่เคยรู้จะท่วมหมดบ้านหรือเปล่า ขอเรียนว่า เวลาอุทกภัยน่ะน้ำจะมาเร็วไหลเข้าง่ายดาย แม้กระนั้นเวลาคัดแยกออกนั้นยากมากรวมทั้งจำต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์เลย นี่เงินบำนาญผมสิบเดือนยังไม่เคยรู้จะพอค่าดูดน้ำไหม
หลานผมถามคำถามว่า ปู่เพราะเหตุใดอุทกภัยอีกแล้ว หากท่วมเยอะแยะเราจะไปอยู่ตรงไหน อยู่ชั้นสองหรือเปล่า ผมฟังแล้วอายอย่างยิ่ง ถามตนเองว่าเพราะเหตุใดเราถึงไม่สามารถคุ้มครองปกป้องรวมทั้งให้อนาคตป้อมคงกับเขาได้ เพราะเหตุใดในชีวิตของเราจึงไม่สามารถสร้างอะไรไว้ให้กับคนรุ่นหลังได้ เราจำเป็นต้องปลดปล่อยให้เขาเผชิญเคราะห์กรรมเองอย่างงั้นหรือ
ผมเรียกหลานสองคนมาถ่ายภาพกับเอกสาร (ดูภาพ) แนวความคิดเพื่อวางแบบก่อสร้างระบบการจัดการจัดแจงทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนรวมทั้งเป็นระบบ แก้ปัญหาน้ำท่วมของเมืองไทย แล้วบอกพวกเขาว่า ปู่มอบให้นะ ต่อไปหนูจำต้องทำให้สำเร็จให้ได้ ปู่คงหมดโอกาสแล้ว หลานผู้ชายชื่อ “ปิ่นประสพ” เพราะเกิดปีที่ปู่เป็นรองนายกรัฐมนตรี คนเพศหญิงคือหลานเล็กที่สุดชื่อ “ปิ่นหัวใจ” ซึ่งมีความหมายว่า รักรวมทั้งปรารถนาดีเช่นดวงใจ ท่านนายกรัฐมนตรีปรารถนาดีอนาคตของคนรุ่นต่อไปคนรุ่นหลังอย่างไรบ้างครับ